(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 533.37 จุด วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 21, 2021 06:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (18 มิ.ย.) และร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,290.08 จุด ร่วงลง 533.37 จุด หรือ -1.58%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,166.45 จุด ลดลง 55.41 จุด หรือ -1.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,030.38 จุด ลดลง 130.97 จุด หรือ -0.92%

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 3.5%, ดัชนี S&P500 ลดลง 1.9% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.2% โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว และการร่วงลงในสัปดาห์นี้ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ทรุดตัวลง เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมา หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า

นายบูลลาร์ดเปิดเผยว่า เขาเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

"ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด" นายบูลลาร์ดกล่าว

นายบูลลาร์ดระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้นั้น ถือเป็นการรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากประกาศล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือนมี.ค.ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้ เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566

นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า บรรดานักลงทุนวิตกว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดเพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ ภาวะซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน และมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น เนื่องจากวันศุกร์นี้ตรงกับวัน quadruple witching ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่นและสัญญาล่วงหน้ารายไตรมาสของหุ้นและดัชนีต่างๆ พร้อมกัน

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ โดยกลุ่มพลังงานนำตลาดร่วงลง 2.92%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ