ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกส่วนหนึ่งจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของภาคการผลิตและภาคบริการของจีน
ดัชนีนิกเกอิปิดเช้านี้ที่ระดับ 28,815.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด หรือ +0.01% ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,960.84 จุด ลดลง 33.26 จุด หรือ -0.11%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 50.9 ลดลงจากระดับ 51 ในเดือนพ.ค. เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และภาวะติดขัดด้านการขนส่งที่ท่าเรือในมณฑลกวางตุ้งได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 53.5 ลดลงจากระดับ 55.2 ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ตอนใต้นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ทางด้านราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัว 6 ล้านบาร์เรล/วัน