ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของช่วงครึ่งหลังของปี 2564
ณ เวลา 20.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,549.89 จุด บวก 47.38 จุด หรือ 0.14%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 12.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 14.4% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 12.5%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ขยายตัวมากเกินคาดในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นในการซื้อขายวันนี้ ขานรับสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งทะลุ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และกลุ่มสายการบิน ต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ต่ำกว่าคาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 51,000 ราย สู่ระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 390,000 ราย และต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 415,000 ราย
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.469 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.382 ล้านราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.6%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 559,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 671,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.9% หลังจากแตะระดับ 6.1% ในเดือนเม.ย.