ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและการรายงานแนวโน้มผลประกอบการเชิงบวกได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.16 จุด เพิ่มขึ้น 87.69 จุด หรือ +1.25%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคารที่นำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นบีพี บวก 0.94% และหุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 2.89% ขณะที่หุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.45% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 1.43%
หุ้น Associated British Foods พุ่ง 4.8% สูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 สูงเกินคาด และหุ้นเจดี สปอร์ต แฟชั่น พุ่งขึ้น 5.4%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 10.3% แล้วในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอังกฤษ แต่ก็ยังปรับตัวล้าหลังตลาดหุ้นยุโรปโดยรวม เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มเดินทาง พุ่งขึ้น 2.6% หลังนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษแสดงความเชื่อมั่นว่า ชาวอังกฤษที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว จะสามารถเดินทางไปยังต่างประเทศได้ในปีนี้