ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด ซึ่งยังคงส่งผลถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%
หุ้นกลุ่มประกันวินาศภัย, กลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มอสังการิมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด
หุ้นแอดไมรัล พุ่ง 3.9% หลังบริษัทเปิดเผยว่า ผลกำไรครึ่งปีแรกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกินคาด เนื่องจากยอดเคลมอุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลงอันเนื่องมาจากมาตรการล็อกดาวน์
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 1.38% หลังบริษัทโบรกเกอร์เจฟฟรีย์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นแอสตร้าฯ หลังจากประเทศไทยเปิดเผยว่าจะใช้วัคซีนของแอสตร้าเป็นโดสที่ 2 สำหรับผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวคโดสแรกแล้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19
นายซาจิด จาวิด รมว.สาธารณสุขของอังกฤษเปิดเผยในวันจันทร์ว่า อังกฤษจะเดินหน้าแผนการที่จะยกเลิกข้อจำกัดทางกฎหมายเกือบทั้งหมดในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในวันที่ 19 ก.ค.นี้
แต่ความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวในช่วงแคบๆ ใกล้ระดับ 7,100 จุด และทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก