ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งมุมมองที่ว่า การที่จีนปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) นั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อการพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,528.50 จุด ลดลง 38.02 จุด หรือ -1.07%
รัฐบาลสหรัฐยกระดับคำเตือนสำหรับบริษัทที่มีห่วงโซ่อุปทานและการลงทุนในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยระบุถึงความเสี่ยงจากข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงและการบังคับใช้แรงงาน
"ธุรกิจและบุคคลที่ยังเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทาน การลงทุนร่วม และ/หรือการลงทุนในมณฑลซินเจียงนั้น อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าข่ายละเมิดกฎหมายของสหรัฐ" กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุในเอกสารแนะนำภาคธุรกิจ
การเปิดเผยเอกสารแนะนำธุรกิจดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องการกดดันจีนในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ และชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียง โดยคณะบริหารของปธน.ไบเดนประณามว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนมองว่า การปรับลด RRR อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลด RRR ในอัตรา 0.50% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ยกเว้นสถาบันการเงินที่มีการกันสำรองอยู่ที่ระดับ 5% อยู่แล้ว โดยคาดว่าการปรับลด RRR จะช่วยให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 1 ล้านล้านหยวน (1.544 แสนล้านดอลลาร์) ในระยะยาว