ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 35,000 จุดในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สดใสของสหรัฐ
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,033.71 จุด บวก 46.69 จุด หรือ 0.13%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ สายการบิน พลังงาน ต่างดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.4% หลังจากดิ่งลง 1.7% ในเดือนพ.ค.
ยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
ราคาหุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้นกว่า 6% ในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่าหุ้นของบริษัทจะถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P 500 ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ การที่หุ้นโมเดอร์นาได้รับการรวมในการคำนวณดัชนี S&P 500 จะทำให้กองทุนขนาดใหญ่ที่บริหารเงินทุนมากกว่าล้านล้านดอลลาร์จะรวมหุ้นของทางบริษัทในพอร์ทการลงทุน
การที่โมเดอร์นาได้รับการรวมในดัชนี S&P 500 ถือเป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA โดยบริษัทระบุว่า เทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากจะนำมาผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังสามารถนำมาผลิตวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ รวมทั้งผลิตยารักษาโรคหัวใจ มะเร็ง และยารักษาปัญหาด้านพันธุกรรม
หุ้นโมเดอร์นาจะเข้ารวมในดัชนี S&P 500 ในวันที่ 21 ก.ค. โดยทดแทนบริษัท Alexion ซึ่งถูกบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าซื้อกิจการ
ทั้งนี้ ราคาหุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ผลสำรวจผู้นำธุรกิจภาคบริการในนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนกติกัต พบว่า ดัชนีธุรกิจภาคบริการลดลง 1.5 จุด สู่ระดับ 41.7 ในเดือนก.ค. แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนมิ.ย.
ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานและค่าจ้าง ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ เฟดได้ดำเนินการสำรวจดังกล่าวเมื่อวันที่ 1-9 ก.ค.