ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด หลุดระดับ 35,000 จุดในวันนี้ แม้มีการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สดใส
ณ เวลา 21.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,855.36 จุด ลบ 131.66 จุด หรือ 0.38%
หุ้มกลุ่มเทคโนโลยีฉุดตลาดลงในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 35,000 จุดในช่วงแรก หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.4% หลังจากดิ่งลง 1.7% ในเดือนพ.ค.
ยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ค.
การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนก็ไม่ได้ช่วยหนุนตลาดในวันนี้
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้นเกือบ 10% ในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่าหุ้นของบริษัทจะถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P 500 ในสัปดาห์หน้า
การที่หุ้นโมเดอร์นาได้รับการรวมในการคำนวณดัชนี S&P 500 จะทำให้กองทุนขนาดใหญ่ที่บริหารเงินทุนมากกว่าล้านล้านดอลลาร์จะรวมหุ้นของทางบริษัทในพอร์ทการลงทุน
การรวมหุ้นโมเดอร์นาในดัชนี S&P 500 ถือเป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA โดยบริษัทระบุว่า เทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากจะนำมาผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังสามารถนำมาผลิตวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ รวมทั้งผลิตยารักษาโรคหัวใจ มะเร็ง และยารักษาปัญหาด้านพันธุกรรม
หุ้นโมเดอร์นาจะเข้ารวมในดัชนี S&P 500 ในวันที่ 21 ก.ค. โดยทดแทนบริษัท Alexion ซึ่งถูกบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าซื้อกิจการ
ทั้งนี้ ราคาหุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ผลสำรวจผู้นำธุรกิจภาคบริการในนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนกติกัต พบว่า ดัชนีธุรกิจภาคบริการลดลง 1.5 จุด สู่ระดับ 41.7 ในเดือนก.ค. แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนมิ.ย.
ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานและค่าจ้าง ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ เฟดได้ดำเนินการสำรวจดังกล่าวเมื่อวันที่ 1-9 ก.ค.