ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุด ใกล้หลุดระดับ 34,000 จุด ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,076.92 จุด ลบ 610.93 จุด หรือ 1.76%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และกลุ่มสายการบิน ต่างดิ่งลงในการซื้อขายวันนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกันตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับ 1.26% แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือนในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 30,000 รายต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สูงกว่าค่าเฉลี่ย 11,000 รายต่อวันในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่า การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น
ขณะนี้ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 5.4 ล้านราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นมากกว่า 50,000 รายต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งเป็นไปตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนไว้ก่อนหน้านี้จากการที่อังกฤษไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในการจัดการแข่งขันดังกล่าว
นายเดวิด ไทซ์ ผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ เตือนนักลงทุนว่า ขณะนี้ถือเป็น "ช่วงเวลาที่อันตรายอย่างมาก" ในการลงทุนในตลาดหุ้นและบิตคอยน์
"หุ้นมีราคาแพงเกินไปเมื่อพิจารณาถึงผลประกอบการในอนาคต และตลาดก็ยังคงเผชิญปัญหาต่างๆ ทำให้นี่เป็นตลาดที่อันตรายมาก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงอย่างมากในขณะนี้" นายไทซ์กล่าว
นอกจากนี้ นายไทซ์ยังเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
นายไทซ์ระบุว่า การทรุดตัวของตลาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์กำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายไทซ์ยังเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากที่จะลงทุนในบิตคอยน์
"เราได้เข้าซื้อบิตคอยน์ตั้งแต่ราคายังอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากที่ราคาพุ่งแตะ 60,000 ดอลลาร์ เราก็รู้สึกว่าราคาได้เพิ่มขึ้นมากเกินไปแล้ว นอกจากนี้ ธนาคารกลางหลายแห่งยังได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในบิตคอยน์ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากในการถือครองบิตคอยน์ในวันนี้" นายไทซ์กล่าว
อย่างไรก็ดี นายไทซ์แนะนำนักลงทุนให้เข้าลงทุนในทอง รวมทั้งบริษัทเหมืองทองและเหมืองเงิน โดยคาดว่าราคาทองจะพุ่งขึ้น 10% แตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ จากระดับราว 1,800 ดอลลาร์ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทส่วนใหญ่เปิดเผยตัวเลขกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้