ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาในขณะนี้จะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,351.80 จุด ร่วงลง 300.94 จุด หรือ -1.09% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,163.88 จุด ลดลง 325.90 จุด หรือ -1.19%
สถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศยังคงน่ากังวล โดยล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์แนะนำไม่ให้พลเมืองชาวอเมริกันเดินทางไปยังสหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย รวมทั้งซิมบับเว ฟิจิ และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 โดยสหรัฐได้ยกระดับการเตือนภัยด้านการเดินทางขึ้นสู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นอกจากนี้ รัฐเซาท์ออสเตรเลียในประเทศออสเตรเลียได้เตรียมประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเย็นวันนี้ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง โดยตลอดการล็อกดาวน์เป็นเวลา 7 วันนั้น ประชาชนจะสามารถออกจากบ้านได้เมื่อมีเหตุอันจำเป็น ส่วนการเรียนการสอนในโรงเรียนจะปรับรูปแบบโดยให้เรียนจากที่บ้านแทน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคที่เปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้ โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15
ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากค่าธรรมเนียมโทรศัพท์มือถือที่ปรับตัวลดลง
ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐานยังคงห่างจากเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แต่การที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงปรับเพิ่มแม้จะเล็กน้อย ก็ช่วยให้กรรมการ BOJ คลายความกังวลได้ในระดับหนึ่ง