ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปเป็นเวลานานขึ้น ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 456.53 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,481.59 จุด เพิ่มขึ้น 17.11 จุด หรือ +0.26% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,514.54 จุด เพิ่มขึ้น 92.04 จุด หรือ +0.60% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,968.30 จุด ลดลง 29.98 จุด หรือ -0.43%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลัง ECB ระบุว่า จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2%
นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เตือนว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 อาจเป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน
ในการประชุมเมื่อวานนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่ง ECB จะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2565 โดยจะซื้อพันธบัตรในวงเงินเดือนละ 2 หมื่นล้านยูโร
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 0.2% แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงก็ตาม
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวขึ้น 2.7%
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้น ABB ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมของสวิส พุ่งขึ้น หลังปรับเพิ่มแนวโน้มยอดขายทั้งปีนี้
ข้อมูลจาก Refinitiv IBES บ่งชี้ว่า บริษัทราว 25% ในดัชนี STOXX 600 รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว ซึ่ง 61% รายงานผลกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และ 51% คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ดีกว่าคาด