ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,144.31 จุด เพิ่มขึ้น 82.76 จุด หรือ + 0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,422.30 จุด เพิ่มขึ้น 10.51 จุด หรือ +0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,840.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.72 จุด หรือ +0.03%
นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอนเซล ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่า ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์และแอปเปิล จะออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มวัฏจักรหรือกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อดูว่าบริษัทกลุ่มนี้จะฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.5% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.51% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.13% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ทะยานขึ้น 2.8%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นก่อนที่บริษัทรายใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.95% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.62% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 1.61% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือด้านการก่อสร้าง ปรับตัวขึ้น 0.67%
ดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ ปรับตัวลง 0.62% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นแกนลบ โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ร่วงลง 1.06% หุ้นอิไล อิลลี่ (Eli Lilly) ปรับตัวลง 0.39% หุ้น Abbvie ลดลง 0.34% หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 1.06%
หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบและอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วงลง 3.39% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท, แอมะซอน, แอปเปิล, เฟซบุ๊ก, เทสลา และไมโครซอฟท์
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันพุธที่ 28 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค.ตามเวลาไทย และจากนั้นจะเป็นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 6.6% สู่ระดับ 676,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 800,000 ยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ราคาบ้านเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน