ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของยูโรโซน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 463.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ +0.46%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,633.77 จุด เพิ่มขึ้น 24.46 จุด หรือ +0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,640.47 จุด เพิ่มขึ้น 70.11 จุด หรือ +0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,078.42 จุด เพิ่มขึ้น 61.79 จุด หรือ +0.88%
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจยุโรปนั้นได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 แล้ว แม้นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการคุมเข้มด้านกฎระเบียบในตลาดการเงินของจีนก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากจุดยืนของธนาคารกลาง หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันพุธนี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงต้องฟื้นตัวต่อไปก่อนที่เฟดจะเริ่มถอนมาตรการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ
คณะกรรมาธิการยุโรปบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจในยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 119.0 จุดในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2528
หุ้นเชลล์และหุ้นโททาลเอ็นเนอร์จี ปรับตัวขึ้น 3.8% และ 2.2% ตามลำดับ หลังจากสองบริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นคืน ขณะที่ราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งขึ้นหนุนผลประกอบการของสองบริษัท
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.4% โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทแองโกล อเมริกันประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์ โดยราคาโลหะเงินและทองคำที่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่บวกขึ้นด้วย
หุ้นแอร์บัส ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งมอบเครื่องบินและผลประกอบการทั้งปีนี้
หุ้นโนเกีย พุ่ง 4.6% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี โดยได้แรงหนุนธุรกิจของบริษัทที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก
หุ้นโฟล์คสวาเกน ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ หลังปรับเพิ่มเป้าหมายผลกำไรเป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 3 เดือน