ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน แม้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 469.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.74 จุด หรือ +0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,781.19 จุด เพิ่มขึ้น 34.96 จุด หรือ +0.52% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,744.67 จุด เพิ่มขึ้น 52.54 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ พุ่ง 5.2% หลังเปิดเผยผลประกอบการสูงเกินคาดและปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี ขณะที่หุ้นซีเมนส์ บวก 2.6% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไร
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงปรับตัวขึ้นด้วย โดยบวก 0.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 2.6% เนื่องจากราคาสินแร่เหล็กและโลหะพื้นฐานปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวจากจีน
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง 0.5% หลังหุ้นอาดิดาสร่วงลง 6% เนื่องจากยอดขายในจีนได้รับผลกระทบจากการที่จีนคว่ำบาตรสินค้าแบรนด์ของชาติตะวันตก และยอดติดโควิดที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องมีการเปิดโรงงานผลิตในเวียดนาม