ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,120.43 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.048%
ตลาดถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นหลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ BoE ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลงมากที่สุด หลังธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า อาจปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ลง ซึ่งส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์
หุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 3% หลังโกลด์แมน แซคส์ แนะนำขายหุ้นลอยด์ส
หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่งขึ้น 5.9% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะบรรลุเป้าหมายผลประกอบการที่คาดไว้ในปี
หุ้น WPP ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่ง 2.7% หลังเปิดเผยรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 19.3% ในไตรมาส 2