ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์, กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 470.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,132.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.35 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,813.18 จุด ลดลง 3.78 จุด หรือ -0.06% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,745.41 จุด ลดลง 16.04 จุด หรือ -0.10%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และกระแสควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป แต่คาดว่าการซื้อขายจะเบาบางลง เนื่องจากเทรดเดอร์จำนวนมากหยุดพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศลดวงเงินซื้อพันธบัตรเร็วขึ้นหรือไม่ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.5% นำโดยหุ้นดีลิเวอรูของอังกฤษซึ่งพุ่งขึ้น 4.5% หลังบริษัทดีลอเวอรี ฮีโร่ของเยอรมนีเข้าซื้อหุ้น 5.09% ในดีลิเวอรู
หุ้นเวกทูราซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ พุ่ง 5.5% หลังบริษัทฟิลิป มอร์ริสของสหรัฐปรับเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการเวกทูรา
แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะ หลังจีนเปิดเผยยอดส่งออกเดือนก.ค.ชะลอตัวลงเกินคาด