ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 2 เดือน โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอการเพิ่มขึ้นนั้นได้คลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 474.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,857.99 จุด เพิ่มขึ้น 37.78 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,826.09 จุด เพิ่มขึ้น 55.38 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,220.14 จุด เพิ่มขึ้น 59.10 จุด หรือ +0.83%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก, ธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุน หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงในเดือนก.ค. ซึ่งคลายความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณปรับลดการซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเอบีเอ็น แอมโร พุ่ง 8.6% หลังเปิดเผยว่าจะเริ่มการจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง หลังผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเกินคาด
ข่าวควบรวมกิจการช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเอวาสต์ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอังกฤษ บวก 3.1% หลังบริษัทนอร์ตันไลฟ์ล็อคของสหรัฐตกลงที่จะซื้อบริษัทเอวาสต์เป็นมูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์