ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในภูมิภาคยังคงฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน และได้บดบังปัจจัยบวกจากการปิดทำนิวไฮของดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,331.89 จุด ลดลง 185.93 จุด หรือ -0.70% ขณะที่ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,043.01 จุด เพิ่มขึ้น 27.99 จุด หรือ +0.10%
ทั้งนี้ มีรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในภูมิภาคว่า นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ขยายเวลาห้ามไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากไทยและอีก 9 ประเทศเข้าฟิลิปปินส์ออกไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. จากเดิมที่กำหนดไว้จนถึงวันที่ 15 ส.ค. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างหนักในฟิลิปปินส์ โดยขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 627 ราย และเสียชีวิต 11 ราย
นอกเหนือจากไทยแล้ว มาตรการขยายเวลาห้ามเข้าฟิลิปปินส์ยังมีผลบังคับใช้กับอินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน เนปาล บังกลาเทศ ศรีลังกา โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยระบุว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศเหล่านี้
นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหว หลังรัฐบาลจีนเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าควบคุมภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยล่าสุดมีรายงานว่า จีนได้สั่งระงับกองทุนไพรเวท อีควิตี้ในการระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยวันนี้ ธนาคารกลางมาเลเซียระบุว่า เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวรวดเร็วเกินคาดในไตรมาส 2 ปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังจากถูกกระทบอย่างหนักจากไวรัสโควิด-19 ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางมาเลเซียได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 16.1% ในไตรมาส 2/2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 14.3% อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวราว 3-4% ในปี 2564 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 6-7.5%