ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) แตะระดับนิวไฮอีกครั้ง และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 475.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,896.04 จุด เพิ่มขึ้น 13.57 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,977.44 จุด เพิ่มขึ้น 39.93 จุด หรือ +0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,218.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.48 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 10 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2549 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 16,000 จุดได้เป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 21 ปี และตลาดหุ้นอิตาลีปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551
ข่าวกระแสควบรวมกิจการในยุโรปช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นอาดิดาส พุ่ง 2.3% หลังเปิดเผยว่าอาดิดาสขายธุรกิจรีบ็อคให้กับออเธนติก แบรนด์ กรุ๊ปเป็นมูลค่า 2.1 พันล้านยูโร (2.5 พันล้านดอลลาร์)
หุ้นซูพลัส พุ่ง 41.1% หลังยอมรับข้อเสนอเทคโอเวอร์มูลค่าราว 3 พันล้านยูโร (3.5 พันล้านดอลลาร์) จากบริษัทเฮลแมนแอนด์ฟรีดแมนของสหรัฐ
สำหรับจุดสนใจของนักลงทุนในสัปดาห์หน้าจะอยู่ที่การเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด