ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ซึ่งปรับตัวลงตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์และการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ท่ามกลางความวิตกว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,058.86 จุด ลดลง 110.46 จุด หรือ -1.54%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงในวันพฤหัสบดีวันเดียวหนักที่สุดในรอบ 1 เดือน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ฉุดตลาดลงมากที่สุด หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ราคาทองแดงและสินแร่เหล็กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ที่ลดลง
ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย