ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในภูมิภาคได้ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,739.60 จุด ลดลง 576.73 จุด หรือ -2.28% ส่วนดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,096.65 จุด ลดลง 184.52 จุด หรือ -0.68%
ทั้งนี้ มีรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในภูมิภาคว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ในนครซิดนีย์ออกไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย. หลังจากการล็อกดาวน์ในระยะเวลาเกือบ 2 เดือนยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้
กลาดิส เบเรจิคเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครซิดนีย์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มาตรการเคอร์ฟิวในซิดนีย์จะถูกบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 21.00 น.จนถึง 05.00 น. ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับมาตรการล็อกดาวน์นครซิดนีย์ในปัจจุบันนั้น มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 28 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ออสเตรเลียซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่คุมโควิด-19 ได้ดีที่สุด กำลังเผชิญปัญหาในการควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดจากโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้ง่าย แม้ว่าจะมีการใช้คำสั่งล็อกดาวน์กับประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศก็ตาม ขณะที่มีประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบโดสเพียง 1 ใน 4
ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้ โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีถือเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง