ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มการเงิน ขณะที่การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนหลังจากที่อังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกลดลงเกินคาดในเดือนก.ค.
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,087.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.04 จุด หรือ +0.41%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่ยังคงลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมาจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มส่งออก อาทิ ยูนิลีเวอร์, บริติช อเมริกัน โทแบคโค และอิมพีเรียล แบรนด์ส ปรับตัวขึ้นราว 0.6-2.5% โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นตามหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ที่พุ่งขึ้น 14.1% หลังเปิดเผยว่า ผลกำไรทั้งปีของบริษัทจะสูงกว่าคาดการณ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษร่วงลงเกินคาดในเดือนก.ค. เนื่องจากผู้บริโภคบางรายไม่ออกมาซื้อสินค้าเพื่อรอชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 หรืออยู่แต่ในบ้านหลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ลดลง 2.5% จากเดือนมิ.ย. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.4%