ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกตามทิศทางหุ้นสหรัฐ จับตาประชุมเฟดที่แจ็กสันโฮล

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น โดยนักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) หลังได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,479.85 จุด พุ่งขึ้น 466.60 จุด หรือ +1.73% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,299.71 จุด เพิ่มขึ้น 449.99 จุด หรือ +1.81%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคซึ่งเปิดเผยวันนี้ สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) ระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในช่วง 20 วันแรกของเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 40.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ทั่วโลก ขณะที่ยอดส่งออกเฉลี่ยต่อวันพุ่งขึ้น 31.5% เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนยอดส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันและเหล็กกล้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในช่วง 20 วันแรก และยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ล้วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 30%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยล่าสุดนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ ซึ่งเป็นผู้จัดการประชุมได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การประชุมในปีนี้จะเปลี่ยนเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเดิมที่กำหนดว่าจะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน

นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ แถลงว่า การตัดสินใจปรับรูปแบบการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคณะผู้จัดงานตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมงานเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว