ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด หรือ +0.30%
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 2.2% และ 1.3% ตามลำดับ โดยหุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 7 วันติดต่อกัน
หุ้นเซนต์เบอรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตของอังกฤษ พุ่งขึ้น 15.4% หลังมีรายงานว่าบริษัทด้านการลงทุนของเอกชนหลายแห่งกำลังเตรียมเสนอราคาซื้อกิจการของเซนต์เบอรี่เป็นมูลค่ามากกว่า 7 พันล้านปอนด์ (9.53 พันล้านดอลลาร์)
ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของอังกฤษยังคงขยายตัว โดยไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอสเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นของสหราชอาณาจักร อยู่ที่ระดับ 55.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 59.2 ในเดือนก.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของอังกฤษยังคงมีการขยายตัว แต่ได้รับปัจจัยกดดันจากการขาดแคลนแรงงานและปัญหาด้านซัพพลายเชน