ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนบวก ขานรับรายงานที่ว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) เมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ นักลงทุนยังเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,763.43 จุด เพิ่มขึ้น 269.19 จุด หรือ +0.98% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,501.75 จุด เพิ่มขึ้น 392.16 จุด หรือ +1.56%
นักลงทุนขานรับปัจจัยบวกหลัง FDA อนุมัติการใช้วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในสหรัฐ ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขคาดหวังว่า การอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบจะช่วยสนับสนุนโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนในสหรัฐ โดยจะโน้มน้าวให้ชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเชื่อว่า วัคซีนของไฟเซอร์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ วัคซีนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้านี้ กระทรวงการค้าและอุตสาหรรม (MTI) ของสิงคโปร์และธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของ MAS เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ค. จากระดับ 0.6% ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนหลักจากราคาไฟฟ้าและก๊าซที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ค. จากระดับ 2.4% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเงินเฟ้อจากราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากเดิมที่กำหนดว่าจะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน โดยการปรับรูปแบบการประชุมมีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19