ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ หลังได้รับแรงกดดันจากมาตรการใหม่ของจีนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่ทำธุรกิจวิดีโอเกมออนไลน์ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในภูมิภาค
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,735.34 จุด ลดลง 53.95 จุด หรือ -0.19% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,174.17 จุด ลดลง 365.37 จุด หรือ -1.43%
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับมาตรการใหม่ของจีน โดยองค์การบริหารสื่อมวลชนและสิ่งพิมพ์แห่งชาติของจีนได้เผยแพร่กฎระเบียบใหม่เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ซึ่งกำหนดว่า เด็กและวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในประเทศจีนจะได้รับอนุญาตให้เล่นวิดีโอเกมออนไลน์ได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคยังถูกกดดันจากปัจจัยลบ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 50.1 ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.อยู่ที่ 47.5 ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 53.3 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนหดตัวลงในเดือนส.ค. ทั้งนี้ ภาคธุรกิจจีนได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และราคาวัตถุดิบที่ระดับสูง
ด้านกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. เนื่องจากภาคการผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในเอเชีย รวมถึงการผลิตเครื่องจักรไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการสื่อสารก็ปรับตัวลงด้วย
ส่วนสำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเดือนก.ค.ปรับตัวลดลง 0.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้เริ่มชะลอตัวลงท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 4 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 4.7%
ส่วนยอดค้าปลีกซึ่งเป็นข้อมูลที่สะท้อนถึงการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน ลดลง 0.6% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับขึ้น 1.4% เมื่อเดือนมิ.ย.