ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนมีมุมมองบวกถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา และยังคงประเมินแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อใด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,446.81 จุด เพิ่มขึ้น 357.27 จุด หรือ +1.27% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,038.35 จุด เพิ่มขึ้น 159.36 จุด หรือ +0.62%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยเมื่อช่วงเช้านี้ ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 เนื่องจากผลกระทบของการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งปัญหาติดขัดด้านอุปทาน และต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับ 49.2 จากระดับ 50.3 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจีนเผชิญภาวะหดตัว ส่วนเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 50.1 ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. โดย NBS ระบุว่า ภาคธุรกิจจีนได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และราคาวัตถุดิบที่ระดับสูง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อใด