ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ผันผวน หลังจากออสเตรเลียเผยยอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,476.01 จุด เพิ่มขึ้น 24.99 จุด หรือ +0.09% ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,047.95 จุด เพิ่มขึ้น 19.66 จุด หรือ +0.08%
สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. เนื่องจากการส่งออกแร่เหล็ก ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมเหมืองแร่มีผลกำไรที่ดีขึ้น
ข้อมูลจาก ABS ระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าของออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (8.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ค. ทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.11 หมื่นล้านดอลาร์ออสเตรเลีย และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตารายงานข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของจีนได้เรียกตัวผู้บริหารของบริษัทที่ให้บริการเรียกรถรับส่งจำนวน 11 ราย และได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัทเหล่านี้ เพื่อเรียกร้องให้บริษัทแก้ไขพฤติกรรมให้ถูกต้อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการปฏิบัติตามกฏระเบียบของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ กระทรวงการขนส่งของจีน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลกฎระเบียบหลายหน่วยงานซึ่งรวมถึงสำนักงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ได้เข้าร่วมพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ซึ่งรวมถึงบริษัทตีตี, T3 และ Meituan โดยกระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า "ทางการจีนได้กำหนดว่า แพลตฟอร์มเรียกรถรับส่งเหล่านี้จะต้องตรวจสอบปัญหาของบริษัท, แก้ไขพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย, ปกป้องความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อสร้างความเป็นธรรมในตลาด และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการพัฒนาธุรกิจเรียกรถรับส่ง"