ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวขึ้น นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังมีรายงานว่า นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล้มเหลวในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,787.35 จุด เพิ่มขึ้น 243.84 จุด หรือ +0.85% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,948.28 จุด ลดลง 142.15 จุด หรือ -0.54%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดในช่วงเช้านี้ หลังมีรายงานว่า นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล้มเหลวในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
การส่งสัญญาณลาออกดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายซูงะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ได้เพียง 1 ปี ขณะที่สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า นายซูงะจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค LDP ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เพื่อเปิดทางให้บุคคลอื่นขึ้นมาแทนที่เขา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยวันนี้ มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนหดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนส.ค. เนื่องจากมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 46.7 ในเดือนส.ค. จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI เดือนส.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่จีนเผชิญกับการระบาดรอบแรกในเดือนเม.ย. 2563 นอกจากนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ยังบ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนเข้าสู่ภาวะหดตัว