ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงในวันนี้ ก่อนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 6 ก.ย. เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,341.52 จุด ลบ 102.30 จุด หรือ 0.29%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.4% ในเดือนก.ค.
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานในคืนนี้จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.หรือไม่
ปัจจุบัน เฟดทำ QE ในวงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์/เดือน
คาดว่าการซื้อขายจะประสบภาวะผันผวนในวันนี้ ท่ามกลางมุมมองที่แตกต่างกันของนักลงทุนที่มีต่อตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนผิดหวังต่อตัวเลขจ้างงานดังกล่าว โดยมองว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งมองมุมบวกว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าว จะทำให้เฟดยังไม่เร่งประกาศปรับลดวงเงิน QE โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวย้ำก่อนหน้านี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ก่อนที่เฟดจะพิจารณาปรับลดวงเงิน QE