ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเวชภัณฑ์ที่ปรับตัวลง นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,138.35 จุด ลดลง 25.55 จุด หรือ -0.36%
ตลาดหุ้นลอนดอนและตลาดหุ้นต่างๆ ปรับตัวลงตามกันท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.4% ในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยหุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ร่วงลง 1.10% และ 1.50% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ ปรับตัวลง 0.8% หลังที่ปรึกษาด้านวัคซีนของอังกฤษตัดสินใจยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นวงกว้างให้กับเด็กอายุ 12-15 ปี เพื่อที่จะประเมินผลกระทบระยะยาวของวัคซีนต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยบวก 0.5% ขณะที่ราคาโลหะปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่ซบเซา