ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (6 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 7 ก.ย.
นอกจากนี้ ตลาดทองคำ ตลาดน้ำมัน ตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT และตลาดทองแดงนิวยอร์ก รวมทั้งหน่วยงานราชการของสหรัฐ ได้ปิดทำการในวันนี้เช่นกัน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 1.6% ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในสัปดาห์ที่แล้วนั้น มาจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลแรงงานที่น่าผิดหวัง ซึ่งรวมถึงการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลอดทั้งเดือนส.ค.พบว่า ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัว 1.2% ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่ผ่านมานั้น จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ในการประชุมวันดังกล่าว