ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นนำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังนักลงทุนซึมซับปัจจัยบวกที่ว่าผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรครัฐบาลคนใหม่ของญี่ปุ่นจะสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการออกมาตรการกระตุ้นครั้งใหม่ นอกจากนี้ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 29,894.92 จุด เพิ่มขึ้น 235.03 จุด หรือ +0.79% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,322.18 จุด เพิ่มขึ้น 158.55 จุด หรือ +0.61%
นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เรียกร้องให้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 30 ล้านล้านเยน (2.73 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นิตยสารไดมอนด์เผยแพร่คำพูดของนายคิชิดะที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อวานนี้ว่า หากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นรักษาเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% รวมถึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ตามแผนของเขานั้น รัฐบาลจะระดมเงินสนับสนุนจำนวน 30 ล้านล้านเยนด้วยการออกตราสารหนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยไปแล้วนั้น สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ระบุว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 25.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 17.1% และแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 19.3% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั่วโลก ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในจีน รวมทั้งปัญหาติดขัดด้านอุปทาน
ส่วนยอดนำเข้าเดือนส.ค.ของจีนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 33.1% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 26.8% และสูงกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 28.1%
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนส.ค.ทั้งสิ้น 5.834 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.105 หมื่นล้านดอลลาร์ และมากกว่าในเดือนก.ค.ที่มียอดเกินดุล 5.658 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.768 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. จากระดับ 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.