ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,100.00 จุด ลดลง 269.09 จุด หรือ -0.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,520.03 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.34% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,374.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.81 จุด หรือ +0.07%
รอนนี วอล์คเกอร์ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 5.7% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6% เนื่องจากชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายน้อยลงในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างหนัก
"ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มปรากฎให้เห็นมากขึ้น ซึ่งได้แก่ การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 3, มาตรการกระตุ้นด้านการคลังที่เริ่มแผ่วลง และการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของภาคบริการ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะกลาง และเราคาดว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าที่เราคาดไว้ในเบื้องต้น" วอล์คเกอร์กล่าว
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.77% และดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดิ่งลง 1.4% ทั้งนี้ หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 1% หุ้น 3M ดิ่งลง 4.58% หุ้นฮันนีเวลล์ ร่วงลง 2.38% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.83% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 2.35%
หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.81% หลังมีรายงานว่าสายการบินไรอันแอร์ได้ยุติการเจรจาซื้อเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จำนวน 10 ลำ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องราคา
หุ้นบริษัทผลิตยาปรับตัวลง โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วงลง 1.58% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ดิ่งลง 1.64% และหุ้นแอมเจน ร่วงลง 2.22% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นทั้ง 3 บริษัทลงสู่ระดับ "equal-weight" จากระดับ "overweight"
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารดีดตัวขึ้น 0.45% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.57% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.55% หุ้นแอมะซอน บวก 0.9% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 2.74% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.38% หุ้นทวิตเตอร์ ปรับตัวขึ้น 0.51%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ในการประชุมวันดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึง ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.