ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่า และจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,024.21 จุด ลดลง 71.32 จุด หรือ -1.01%
ตลาดปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเวชภัณฑ์ถ่วงตลาดลงมากที่สุด
เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีรายได้เป็นดอลลาร์ อาทิ หุ้นยูนิลีเวอร์, บริติช อเมริกัน โทแบคโค และอิมพีเรียล แบรนด์ ร่วงลง 1.4-1.6%
นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษวางแผนที่จะปรับขึ้นภาษีเงินปันผลของผู้ถือหุ้นเพื่อพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตด้านเงินทุนในการดูแลสุขภาพและสังคม
หุ้นอีซี่เจ็ต ร่วงลง 10.2% หลังปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์ และจะเพิ่มทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์จากผู้ถือหุ้นเพื่อฟื้นฟูและขยายธุรกิจ