ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ
ณ เวลา 18.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 181 จุด หรือ 0.52% สู่ระดับ 34,934 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ร่วงลง 151.69 จุด หรือ 0.43% โดยปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วัน ท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 310,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 345,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับข่าวการเจรจากันทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สี จิ้นผิง ซึ่งเป็นการหารือกันครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่เดือนก.พ. และเป็นครั้งที่ 2 ของปธน.ไบเดนนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งจะนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนพร้อมร่วมมือกับสหรัฐในด้านการป้องกันภาวะโลกร้อน, การป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19, การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และประเด็นอื่นๆในภูมิภาคและระดับโลก บนพื้นฐานของการที่สหรัฐและจีนจะให้ความเคารพในความแตกต่างและความกังวลของแต่ละฝ่าย
ปธน.สี จิ้นผิงยังกล่าวว่า หากจีนและสหรัฐเผชิญหน้ากัน ทั้งสองประเทศและทั่วทั้งโลกจะเป็นฝ่ายเสียหาย แต่หากจีนและสหรัฐสามารถร่วมมือกัน ทุกฝ่ายก็จะได้ประโยชน์
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงิน QE หรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.