ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ด้วย
ณ เวลา 07.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 140 จุด หรือ +0.41% แตะที่ 34,631 จุด
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 271.66 จุด หรือ -0.78% ปิดที่ 34,607.72 จุดเมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) และตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงถึง 2.15% โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2553 หลังจากดีดตัวขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันอังคารที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อยืนยันทิศทางของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมถึงการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่