ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งอาจฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงไปด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ในจีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 30,510.05 จุด ลดลง 160.05 จุด หรือ -0.52% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,259.66 จุด ลดลง 242.57 จุด หรือ -0.95%
นักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจจีน หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 6.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.8%
ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 2.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ยังชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 8.5% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซียะเหมินในมณฑลฝูเจี้ยนซึ่งมีประชากรกว่า 4.5 ล้านคน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายสิบราย ท่ามกลางความพยายามในการสกัดโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอย่างเต็มกำลัง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่ถึง 1 เดือนหลังจากที่จีนต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยทางการได้ใช้มาตรการที่รวดเร็วและรุนแรง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าเดิม รวมถึงความพยายามในการรักษายุทธศาสตร์ "โควิดเป็นศูนย์" ของจีน
ทั้งนี้ เมืองเซียะเหมิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง ABB Ltd. และ Schneider Electric SE ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งการควบคุมโรคระบาด โดยย่านที่อยู่อาศัยและหมู่บ้านทั้งหมดถูกปิด ขณะที่สถานที่พักผ่อนในเมือง เช่น โรงภาพยนตร์, บาร์, โรงยิม, และห้องสมุด ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว