ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าหรูหราที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 463.91 จุด ลดลง 3.74 จุด หรือ -0.80%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,583.62 จุด ลดลง 69.35 จุด หรือ -1.04%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,616.00 จุด ลดลง 106.99 จุด หรือ -0.68% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.49 จุด ลดลง 17.57 จุด หรือ -0.25%
คณะรัฐมนตรีของสเปนได้ผ่านมาตรการฉุกเฉินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ระดับสูง เพื่อส่งคืนกำไรพิเศษจำนวนหลายพันล้านยูโรจากบริษัทพลังงานไปสู่ผู้บริโภค และจำกัดการปรับขึ้นราคาก๊าซ
ข่าวดังกล่าวกดดันหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ร่วงลง 2.9% โดยหุ้นเอเนล ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคใหญ่ที่สุดของยุโรปร่วงลงมากกว่า 5%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตและค้าปลีกของจีนชะลอลงในเดือนส.ค.จากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดครั้งใหม่และภาวะชะงักงันด้านอุปทานนั้น กดดันหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราของยุโรปที่มีตลาดจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่
หุ้นค้าปลีก ร่วงลง 2.3% จากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน และสัญญาณบ่งชี้ถึงการคุมเข้มด้านกฎระเบียบในมาเก๊าซึ่งเป็นศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่ที่สุดของโลก
หุ้นหลุยส์วิตตองและหุ้นเคอริ่งของฝรั่งเศส ร่วงลงกว่า 4%