ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเดินทางพุ่งขึ้นหลังจากร่วงลง 4 วันติดต่อกัน หลังจากสายการบินไรอันแอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์ภาวะการสัญจรทางอากาศในระยะยาว ซึ่งได้ช่วยชดเชยความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.04 จุด หรือ +0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,622.59 จุด เพิ่มขึ้น 38.97 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,651.75 จุด เพิ่มขึ้น 35.75 จุด หรือ +0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,027.48 จุด เพิ่มขึ้น 10.99 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นจากระดับปิดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อวันพุธ โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวขึ้น 3.4%
หุ้นไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากปรับเพิ่มคาดการณ์การเดินทางทางอากาศในระยะยาว
หุ้นอีซีเจ็ต, หุ้น IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ และหุ้นวิซ แอร์ พุ่งขึ้น 3.9-7%
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการช่วยหนุนหุ้นยุโรปด้วย โดยหุ้นซูเปอร์ดรายของอังกฤษ พุ่งขึ้น 14.9% หลังคาดการณ์รายได้ทั้งปี 2565 ฟื้นตัว ขณะที่หุ้นลาการ์แดร์เจ้าของนิตยสาร Paris Match ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 19.5% หลังบริษัทวิวองดิซึ่งเป็นกลุ่มสื่อเปิดเผยว่าจะซื้อหุ้นในลาการ์แดร์เพิ่มขึ้รเพื่อปูทางไปสู่การเทคโวเวอร์กิจการ
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ หุ้นริโอ ทินโต, หุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นบีเอชพี กรุ๊ป ร่วงลงหนักที่สุดตามราคาโลหะ หลังจีนเปิดเผยแผนการที่จะระบายโลหะออกจากคลังสำรอง