ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการ ด้านนักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดการในการปรับลดมาตรการ QE ของเฟด
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,640.43 จุด ลดลง 280.33 จุด หรือ -1.12%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (20 ก.ย.) เนื่องในวันผู้สูงอายุ, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันที่ 20-22 ก.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 20-21 ก.ย. เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์
นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน โดยธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 9 หมื่นล้านหยวน (1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.ย.) เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสภาพคล่องตึงตัวในระบบหลังจากบริษัทประสบปัญหาสภาพคล่องลดลง และมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
การดำเนินการของธนาคารกลางจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทเอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะเดียวกันมีการประเมินว่า เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน โดยข้อมูลที่มีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์มีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 2.057 แสนล้านหยวน (3.2 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2563
นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดเผยว่า ผู้บริหาร 6 รายได้ทำการไถ่ถอนผลิตภัณฑ์การลงทุน 12 รายการของบริษัทก่อนครบกำหนด แต่บริษัทไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้บริหารหรือรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนดังกล่าว โดยเอเวอร์แกรนด์ได้เรียกร้องให้ผู้จัดการ 6 รายดังกล่าวส่งคืนเงินทุนทั้งหมดที่ไถ่ถอนไปให้กับบริษัท และจะทำการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงด้วย