ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งสร้างความกังวลถึงภาวะเงินเฟ้อและอาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางบางแห่งก็ตาม
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 30,358.62 จุด เพิ่มขึ้น 109.81 จุด หรือ +0.36% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,259.75 จุด เพิ่มขึ้น 67.59 จุด หรือ +0.28%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ แตะที่ 79.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ แตะที่ 74.95 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ โดยราคาน้ำมันพุ่งเหนือระดับสูงสุดในเดือนก.ค. หลังจากการผลิตน้ำมันทั่วโลกประสบภาวะหยุดชะงัก ส่งผลให้บริษัทน้ำมันต้องดึงน้ำมันดิบออกจากสต็อกน้ำมันเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่ลดลง ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติในยุโรปทำให้ต้นทุนด้านพลังงานเพิ่มขึ้นทั้งภูมิภาค
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยวันนี้ คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของสิงคโปร์ (EDB) ระบุว่า ผลผลิตในภาคการผลิตเดือนส.ค.ของสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่มีการขยายตัว 16.4% ในเดือนก.ค. และขยายตัว 28.3% ในเดือนมิ.ย.
หากไม่นับรวมการผลิตด้านชีวการแพทย์แล้ว ผลผลิตภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบรายปี เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 6.7% ในเดือนก.ค. และ 25.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ผลผลิตในภาคการผลิตเดือนส.ค.ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 5.7% และหากไม่นับรวมการผลิตด้านชีวการแพทย์แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.8%