ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นในจีนส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีความเสี่ยงว่าจะต้องปิดโรงงาน ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์และกลุ่มผู้ผลิตเหล็ก
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,536.29 จุด ลดลง 65.92 จุด หรือ -1.83%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนพลังงานในจีนซึ่งส่งผลให้ต้องมีการปิดโรงงานจำนวนมากทั่วประเทศนั้น อาจเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจจีนที่ร้ายแรงกว่าปัญหาหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป
โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2564 ลงสู่ระดับ 7.8% จากระดับ 8.2% โดยระบุว่า ปัญหาขาดแคลนพลังงานและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงอย่างมากนั้น ได้เพิ่งแรงกดดันให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
ทางด้านบริษัทโนมูระได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP จีนในปีนี้ลงสู่ระดับ 7.7% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 8.2% เนื่องจากคาดว่าวิกฤตพลังงานในจีนอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มถ่านหินต่างก็ทรุดตัวลงกว่า 5% เนื่องจากความกังวลดังกล่าว
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากเอเวอร์แกรนด์ประกาศว่า บริษัทมีแผนที่จะขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (1.5 พันล้านดอลลาร์) ที่ทางบริษัทถือครองอยู่ในธนาคารเสิ้งจิง (Shengjing Bank) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน เพื่อระดมเงินทุนในช่วงเวลาที่เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก