ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน และราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,027.07 จุด ลดลง 59.35 จุด หรือ -0.84%
ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพราะภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งราคาพลังงานที่สูงขึ้นถ่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ
เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทที่มีรายได้ส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวลงด้วย
หุ้น Sage ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ ร่วง 1.3% หลังเปิดเผยว่า บริษัทจะปรับลดพนักงานทั่วโลกมากกว่า 800 ตำแหน่ง
หุ้นแกล็คโซ่สมิธไคลน์ ร่วงลง 1.3% หลังยุติความร่วมมือกับบริษัทเมอร์คของเยอรมนีเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง
หุ้น Wetherspoon ซึ่งเป็นผู้ประกอบการผับของอังกฤษ ร่วง 1.2% หลังเปิดเผยว่า บริษัทเผชิญความยากลำบากในการหาแรงงาน และได้เปิดเผยยอดขาดทุนรายปีเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า
หุ้น AO World บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ไฟฟ้าออนไลน์ ร่วง 17.8% หลังเปิดเผยว่า บริษัทขาดแคลนคนขับรถส่งของในสหราชอาณาจักร และภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานโลกส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของรายได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้