ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลง ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.23%
ตลาดปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ร่วงลง อาทิ หุ้นเอชเอสบีซี, พรูเดนเชียล และลอยด์ส กรุ๊ป
การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรากดดันตลาดลงด้วยจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกเผชิญกับการควบคุมโรคโควิด-19 ครั้งใหม่, การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และการคุมเข้มด้านกฎระเบียบ
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
แต่หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ปรับตัวขึ้น 2.1% และ 2.2% สวนทางตลาด โดยพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดด้วย โดยหุ้นไรอันแอร์และหุ้น IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ปรับตัวขึ้น 3% และ 0.1% ตามลำดับ หลังมีรายงานว่า ภายในสัปดาห์นี้ อังกฤษจะเปิดรับผู้เดินทางจากประเทศต่าง ๆ มากขึ้นโดยไม่ต้องกักตัว