ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 1.5% เมื่อคืนนี้ รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,544.06 จุด ลดลง 278.06 จุด หรือ -1.00% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 23,992.99 จุด ลดลง 111.16 จุด หรือ -0.46%
ตลาดได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.526% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.09% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกต่อการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดถึง 1 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกัดจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แม้ว่าหลายประเทศรวมถึงสหรัฐได้พยายามกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าระดับดังกล่าวเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้วนั้น ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี พร้อมส่งสัญญาณว่าจะดำเนินโยบายคุมเข้มด้านการเงินมากขึ้นในวันข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ รวมทั้งชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัยภายในประเทศ
การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจนิวซีแลนด์มีความคืบหน้ามากกว่าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่หลายประเทศซึ่งรวมถึงนอร์เวย์ สาธารณรัฐเช็ก และเกาหลีใต้ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน