ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเดินทาง ร่วงลงมากกว่า 2.5% ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งขึ้น ซึ่งเพิ่มความวิตกว่าภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 451.33 จุด ลดลง 4.70 จุด หรือ -1.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,493.12 จุด ลดลง 83.16 จุด หรือ -1.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,973.33 จุด ลดลง 221.16 จุด หรือ -1.46% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,995.87 จุด ลดลง 81.23 จุด หรือ -1.15%
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดัน หลังจากราคาค้าส่งก๊าซในเนเธอร์แลนด์และอังกฤษพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารท่ามกลางราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นของในวงกว้าง
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะตลาดพลังงานที่ตึงตัว, การขาดแคลนแรงงาน และภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทานซึ่งได้ถ่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจลง ขณะที่ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ กำลังพิจารณาปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลงอย่างหนักหลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมของเยอรนีลดลงมากเกินคาดในเดือนส.ค.เนื่องจากอุปสงค์อ่อนแอลงโดยรวม
หุ้นกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.2%
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป โดยหุ้น TeamViewer ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของเยอรมนี ร่วงลง 25% หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสต่ำกว่าคาด และปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี
หุ้นดอยซ์ เทเลคอม ร่วงลง 5.4% หลังโกลด์แมน แซคส์ ขายหุ้นดอยซ์ เทเลคอม มูลค่า 1.58 พันล้านยูโร (1.83 พันล้านดอลลาร์) ในการทำข้อตกลงปรับโครงสร้างทางการเงินกับซอฟท์แบงก์