ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนเริ่มจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,995.87 จุด ลดลง 81.23 จุด หรือ -1.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. โดยถูกกดดันโดยจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง 2.6% และ 1.7% ลำดับ
ผลสำรวจในช่วงที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มผู้ผลิตของอังกฤษวางแผนที่จะปรับเพิ่มราคาสินค้า เนื่องจากแรงกดดันด้านต้นทุนยังคงเพิ่มขึ้น
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น, ปัญหาด้านอุปทาน และการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งได้ส่งผลถ่วงราคาหุ้นลง ขณะที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ก็เตรียมปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันด้านราคา
หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ร่วง 3.5% แม้เปิดเผยว่าจะบรรลุคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งปี
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.0% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิตปี 2562 ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
หุ้นเทสโก้ พุ่ง 5.9% เนื่องจากบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี หลังเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก