ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 400 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,804.62 จุด บวก 387.63 จุด หรือ 1.13%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจต่างก็ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้
ข้อมูลจาก "Stock Trader's Almanac" ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักฟื้นตัวขึ้นในเดือนต.ค. และปรับตัวขึ้นจนถึงสิ้นปี โดยเดือนต.ค.ถือเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงขาขึ้นตามฤดูกาลของราคาหุ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.8% ในเดือนต.ค. ก่อนที่จะพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. และ 1.5% ในเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 326,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. จากระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์
นักลงทุนคาดหวังว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถประนีประนอมเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
ทั้งนี้ แกนนำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะทำการหารือกันในวันนี้เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังจากที่แกนนำพรรคเดโมแครตแสดงท่าทีเปิดกว้างพร้อมรับข้อเสนอของพรรครีพับลิกันในการขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงเดือนธ.ค.
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าววานนี้ว่า พรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือนธ.ค. เพื่อช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
นายแมคคอนเนลล์เสนอให้มีการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจากระดับ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน สู่อีกระดับหนึ่งที่มีการกำหนดวงเงินตายตัว อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตต้องการให้มีการระงับการกำหนดวงเงินของเพดานหนี้โดยสิ้นเชิง
หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้พิจารณาในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.