ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยได้แรงหนุนจากกหุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันและโลหะ และการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.71 จุด เพิ่มขึ้น 65.89 จุด หรือ +0.92%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ แอนโทฟากัสตา, ริโอ ทินโต และเกล็นคอร์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด
ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นกว่า 200% แล้วจากระดับต่ำสุดในเดือนมี.ค. 2563 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์โลหะที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจหลังการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคระบาด
หุ้นน้ำมัน อาทิ บีพี และเชลล์ ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น 1%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเห็นของนางซิลวานา เทนเรย์โร ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งระบุว่า BoE จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีสาเหตุมาจากราคาพลังงานและเซมิคอนดักเตอร์ที่สูงขึ้น หากพิจารณาแล้วว่าผลกระทบเหล่านี้เป็นเพียงระยะสั้น
ส่วนหุ้นเทสโก้ร่วงลง หลังขึ้นเครื่องหมาย XD